Uncategorized

KNO

KNO

KNO เป็นวงดนตรีแนว Post Rock  ที่มีเพลงเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ บฟวกกับกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นผสมอยู่ ดูภายนอกอาจจะเป็นวงที่ดูสำอางค์ แต่ความป่าเถื่อนไม่แพ้ใครแน่นอน ในการแสดงสดพวกเราผสมผสานความอ่อนหวาน และความรุนแรงเข้าด้วยกันในโชว์อย่างเต็มอิ่ม และในพาร์ทของการแสดงโชว์พวกเขายังเคยทัวร์คอนเสิร์ต ในประเทศญีปุ่น และมีฐานแฟนคลับอยู่ที่นั่นอีกด้วย
LINE UP
 
(นิค)  ชนาวุธ วีระปรีย – Vocal
(พีซ) ชโนดม นาคะลักษณ์ –  Guitar
(โป้) พีรศุษม์ จึงเจริญ – Bass
(ลิง) ธัชพล เดชรักษา – Drum

Alusia

Alusia

ALUSIA คือ
กลุ่มอาการทางประสาทชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการเสพติดอะไรบางอย่างเป็นเวลานาน จนเกิดอาการหลอนแม้กระทั่งตนเอง เปรียบได้เหมือนสมาชิกภายในวงที่ เสพติดความรุ้สึกบางอย่างในชีวิตทั้งในแบบที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว

ALUSIA วง metal ที่มีสายเลือด hiphop โดยแท้จริง โดยจุดเริ่มต้นเกิดจาก Daddy-P นักร้องนำ และ N.Y.P. มือกีต้าร์ ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกวง hardcore rap อย่าง “Diamond In The Dirt” และแนว hiphop, reggae ในชื่อ “JingkaringMob”

 

คุยกันว่าใจเรายังอยากกลับมาทำวงดนตรีกันอีกครั้งพร้อมพังทลายทุกกำแพงทางดนตรีแนวทางของเราจะไม่เหมือนใครและเดาทางได้ยาก

 

 

Daddy-P 

อดีตนักร้อง hiphop, raggamuffin ซึ่งเคยอยู่วง rastafariworld, fyah burning, jingkarinmob ส่วนผลงานทางฝั่ง Metal เคยเป็นมือกีต้าร์วง Deathcore ในชื่อ Marionettes แล้วจึงผันตัวขึ้นไปเป็นนักร้องของวง Diamond In The Dirt ซึ่งยังมีหน้าที่เป็น Producer เองด้วย

 

 

N.Y.P. 

อดีตมือกีต้าร์สุดจี๊ดจากวง Carina, Diamond In The Dirt เป็นคู่หูที่มักจะตัวติดกันแบะเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆด้วยกันกับ Daddy-P อยู่เสมอ นอกจากเป็นมือกีต้าร์แล้ว N.Y.P. ยังเป็น Rapper ที่มากฝีมือจาก JingkaringMob อีกด้วยเช่นกัน ด้วยลีลาการเล่นกีต้าร์ที่ราวกับหนัง Action บวกกับ สำเนียงกีต้าร์ ที่มีความอาหรับ อยูในทุก Riff คุณจะหลงรักเขาได้ไม่ยากเลย

 

 

Mr.Baby
มือกลองอดีตสมาชิกวง An identity ผู้ที่มีวาทะคารมแต่น้อย ด้วยลีลาที่มีกรูฟต่อเนื่องที่กรั่นผ่านความรู้สึกจึงทำให้เพลงออกมามีความลงตัว อีกทั้ง Mr.Baby ยังเคยร่วมงานกับ Diamond In The Dirt มาก่อนด้วย จึงทำให้การเล่นออกไปในทิศทางเดียวกันทั้งวง


SIA.M


มือเบสระดับอาจารย์ ที่มีความสุขุมเป็นเหมือนพี่ใหญ่ที่คอยดูแลน้องๆในวงอยู่เสมอ SIA.M เคยเป็นอดีตสมาชิกวง Carina สายเมทัลจะรู้จักกันดี ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ เขาได้พกฝีมือที่ไปพัฒนามาถึง 10 กว่าปี พร้อมที่จะมาปล่อยกับวง Alusia แบบไม่มีกั๊ก

Mad Pack it

MAD PACK IT วงดนตรีแนว Alternative Rock and Roll ที่มีจุดเด่นด้วยเนื้อหาอันเข้มข้นทั้งให้กำลังใจบวกความจริงใจตรงไปตรงมามีภาษาเป็นของตัวเองอีกทั้งความเกรี้ยวกราดดุดันหากแต่เป็นกันเอง ในการแสดงสดทำให้พวกเขายังคงได้รับการจดจำว่าเป็นหนึ่งในตัวแทน ของชาวร๊อคสายหนักที่มีตัวตนโลดแล่นอยู่บนผืนผ้าใบของวงการดนตรี บ้านเรามาอย่างยาวนานร่วม 20 ปี การันตีด้วยผลงานอย่าง ‘รักในสันดาน’ ‘อยู่เพื่อตัวเอง’ ‘แม้’ หรือ ‘กวนตีน’ ยังคงเป็นความประทับใจอยู่ในความทรงจำของแฟนๆจนถึงปัจจุบัน

LINE UP!

เจษฎา เลี้ยงเชื้อ – บอล ร้องนำ

เดชา มาลี – บอย กีตาร์

ภาคี นาวี – โย เบส

ชนาพล สินธุมาศ – ต่อ กีตาร์

ตีเพชร พึ่งละออ – กล้วย กลอง

Lastfight For Finish

Biography

The band ‘Last fight for finish’ was formed in 2011 by ‘A Capone’ (Frontman mic1) and ‘Jencore’ (Guitar) and then the first single was released, “Camouflage Blood,” in 2012.

During the same year, the band had a good opportunity to work with “KlaiPuenTiang” records and that was the first time we had the record label. Later on we produced the second single, “The Last Term Before Death,” in 2013.

A year later, we also produced continuously the third single “Muay Thai”, which was joined by “Sunny Day -Thaitanium”. We were so proud that this song was chosen as an opening song of the famous boxing show “Thai Fight”.

In 2017, we picked up Sunny Day’s old single “I-Ha-Er”,old school-hiphop style to remake in our own way. After that we also created the fourth single, “The Man Next To You” in the same year.

Later, during the year 2018, the band has changed the members and moved to “Sanam Luang” recorded by the GMM group. We released the 5th and 6th single “Kod Kao” and “Still Alive”.

When the contract with GMM ended, the band moved to Heavy Studio record in 2020, produced the 7th single “The Peace of the Leader” that was about the political satire.

Next year in 2021, we just released the latest single “Lounge Loser”. Actually the author wrote this song to satirize the society that all about failed state.

Over the past 10 years, we struggled as we had to face with troubles. We don’t expect to have an album or to be a famous or get lots of likes, we just hope that we can make our real fans who love and understand all our works. We will do our best for everyone.

EnglishThai
Scroll to Top